วันอังคารที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

คำถามท้ายบทที่ 1 เรื่อง Database Consepts

การบ้าน
วิชาฐานข้อมูลเบื้องต้น (4122201) ตอนเรียน A1
ประจำวันที่ 10 พฤศจิกายน 2553


1. สรุปแนวคิดในการจัดการข้อมูลจากอดีตถึงปัจจุบัน

- ในอดีตไม่มีเทคโนโลยีในการจัดการข้อมูลทำให้ต้องจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบ ของกระดาษทำให้ข้อมูลนั้นเกิดความเสียหายหรือสูญหายได้ง่ายเพราะกระดาษไม่มี ความคงทนถาวรและเมื่อเสียหายหรือสูญหายไปจะทำให้ข้อมูลนั้นไม่ครบถ้วนสมบูรณ อาจจะทำให้เกิดข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเกิดขึ้นได้ง่าย
- ในปัจจุบันมีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการเก็บข้อมูลมากขึ้นทำให้ข้อมูล นั้นสามารถเรียกหาได้ง่ายและมีความรวดเร็วในการหยิบใช้ข้อมูล
2. โครงสร้างของแฟ้มข้อมูลประกอบด้วยอะไรบ้าง จงอธิบาย
  • บิต (Bit) เป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ สถานะคือ 0 และ 1
  • ไบต์ (Byte) เป็นการนำจำนวนบิตมารวมกันเป็นไบต์ ได้แก่ ตัวเลข ตัวอักษร หรือสัญลักษณ์พิเศษ 1 ตัว เช่น 0, 1, a เป็นต้น โดยที่ 1 ไบต์มีค่าเท่ากับ 8 บิต
  • ฟิลด์ (Field) เป็นการนำไบต์หลาย ๆ ตัวมารวมกันเป็นฟิลด์เพื่อให้เกิดความหมาย เช่น Salary เป็นฟิลด์ที่เก็บเงินเดือนพนักงานเป็นต้น
  • เรคคอร์ด (Record) เป็นกลุ่มของฟิลด์ที่มีความสัมพันธ์กัน ในหนึ่งเรคคอร์ดจะประกอบด้วยฟิลด์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกันรวมกันเป็นชุด เช่น เรคคอร์ดของประวัตินักศึกษา ประกอบด้วยฟิลด์รหัสนักศึกษา ชื่อ-สกุล วันเกิด ที่อยู่ จังหวัด เบอร์โทรศัพท์ ชื่อที่อยู่ผู้ปกครองเป็นต้น
  • ไฟล์ (File) หรือ แฟ้มข้อมูล (Data File) เป็นกลุ่มของเรคคอร์ดที่มีความสัมพันธ์กัน เช่น ในแฟ้มประวัตินักศึกษาจะประกอบด้วยเรคคอร์ดของนักศึกษาทั้งหมดที่อยู่ใน มหาวิทยาลัย
3.การเก็บข้อมูลแบบแฟ้มข้อมูลมีข้อจำกัดอย่างไร จงอธิบาย
ตอบ   การเก็บข้อมูลแบบแฟ้มข้อมูลมีข้อจำกัด ดังนี้
  • ข้อมูล มีการจัดเก็บแยกจากกัน จะมีการเก็บข้อมูลแยกกันหลายแฟ้ม ซึ่งแต่ละแฟ้มจะมีคีย์หลักที่เชื่อมข้อมูลเอาไว้ ดังนั้นจึงทำให้ข้อมูลแยกจากกัน
  • เกิด ความซ้ำซ้อนของข้อมูล เนื่องจากการเก็บข้อมูลที่แยกจากกัน จึงทำให้ไม่สามารถควบคุมข้อมูลไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนกันได้ และยังทำให้เปลืองพื้นที่ในการเก็บข้อมูลอีกด้วย
  •  ข้อมูล มีความขึ้นต่อกัน ปัญหาดังกล่าวจะเกิดขึ้นเมื่อมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของแฟ้มข้อมูล จะส่งผลให้ข้อมูลในหน่วยงานอื่น ๆ ที่จัดเก็บไม่ตรงกัน 
  • ความ ไม่สอดคล้องกันของข้อมูล คือ ข้อมูลเดียวกันจะถูกจัดเก็บไว้ในหลาย ๆ แห่ง มีค่าไม่ตรงกัน ซึ่งอาจเกิดจากการผิดพลาดของการป้อนข้อมูล มีรูปแบบไม่ตรงกันรายงาน ต่าง ๆ ถูกกำหนดไว้อย่างจำกัด เนื่องจากระบบแฟ้มข้อมูลของแต่ละหน่วยงาน ถูกเขียนขึ้นด้วยหลาย ๆ โปรแกรม ส่วนที่โปรแกรมเมอร์มาพัฒนาโปรแกรม จะมีส่วนกำหนดรายงานที่หน่วยงานจะใช้ เมื่อต้องการรายงานอื่น ๆ ในอนาคตก็จะต้องทำการจ้างโปรแกรมเมอร์อีกครั้ง
4. ฐานข้อมูลคืออะไร และ ยกตัวอย่างฐานข้อมูลที่นักศึกษารู้จักมา 2 ระบบ
   หมายถึง กลุ่มของข้อมูลที่มีความสัมพันธ์กัน นำมาเก็บรวบรวมเข้าไว้ด้วยกันอย่างมีระบบและข้อมูลที่ประกอบกันเป็นฐาน ข้อมูลนั้น ต้องตรงตามวัตถุประสงค์การใช้งานขององค์กรด้วยเช่นกัน เช่น ในสำนักงานก็รวบรวมข้อมูล ตั้งแต่หมายเลขโทรศัพท์ของผู้ที่มาติดต่อจนถึงการเก็บเอกสารทุกอย่างของ สำนักงาน ซึ่งข้อมูลส่วนนี้จะมีส่วนที่สัมพันธ์กันและเป็นที่ต้องการนำออกมาใช้ ประโยชน์ต่อไปภายหลัง ข้อมูลนั้นอาจจะเกี่ยวกับบุคคล สิ่งของสถานที่ หรือเหตุการณ์ใด ๆ ก็ได้ที่เราสนใจศึกษา  หรืออาจได้มาจากการสังเกต การนับหรือการวัดก็เป็นได้ รวมทั้งข้อมูลที่เป็นตัวเลข  ข้อความ  และรูปภาพต่าง ๆ ก็สามารถนำมาจัดเก็บเป็นฐานข้อมูลได้ และที่สำคัญข้อมูลทุกอย่างต้องมีความสัมพันธ์กัน เพราะเราต้องการนำมาใช้ประโยชน์ต่อไปในอนาคตเช่น

  • ระบบฐานข้อมูลพนักงานในบริษัท 
  • ระบบฐานข้อมูลลูกค้าของบริษัท
5.ฐานข้อมูลช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับการเก็บข้อมูลในแฟ้มข้อมูลอย่างไร
ตอบ  ฐาน ข้อมูลจะช่วยแก้ปัญหาของการเก็บข้อมูลในแฟ้มข้อมูล โดยที่จะทำให้หลีกเลี่ยงความขัดแย้งของข้อมูลได้ สามารถใช้ข้อมูลร่วมกันได้ ลดความซ้ำซ้อนของข้อมูล สามารถรักษาความถูกต้องและความเชื่อถือได้ของข้อมูล สามารถกำหนดความเป็นมามาตรฐานเดียวกัน สามารถกำหนดระบบรักษาความปลอดภัยได้  และมีความเป็นอิสระของข้อมูลและโปรแกรมอีกด้วย
6.ระบบจัดการฐานข้อมูล (DBMS) คืออะไร มีส่วนสำคัญต่อฐานข้อมูลอย่างไร
ตอบ  ระบบจัดการฐานข้อมูล (DBMS) คือ โปรแกรมที่ทำหน้าที่จัดการข้อมูลในฐานข้อมูล ทั้งการสร้าง การเรียกใช้งาน การเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง และยังควบคุมระบบรักษาความปลอดภัยของฐานข้อมูลอีกด้วย และยังมีความสำคัญต่อฐานข้อมูล เช่น ช่วยกำหนดและเก็บโครงสร้างฐานข้อมูล ช่วยบรรจุข้อมูลลงฐานข้อมูล ประสานงานกับระบบปฏิบัติการ ช่วยควบคุมความปลอดภัย การจัดทำข้อมูลสำรองและการกู้ แล้วยังทำหน้าที่จัดทำพจนานุกรมข้อมูล เป็นต้น
7. ยกตัวอย่าง ฐานข้อมูลกับการดำเนินชีวิตประจำวัน
การยืม-คืนหนังสือโดยใช้บัตรนักศึกษาเพราะจะมีการบันทึกข้อมูลในฐานข้อมูลใน การยืมและการคืนและสบายรวดเร็วในการค้นหาชื่อผู้ยืมที่ยังไม่ได้ส่งคืน หนังสือ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น